วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

17/9/12

                                                                                                                                           17/9/12         

วันนี้วันจันทร์อีกแล้ววว T^T ไม่อยากจะตื่น
เมื่อคืนก็นอนไม่หลับ =,=
วันนี้ที่โรงเรียนมีกิจกรรมทำบุญด้วย ^^
วันนี้เรียนฟิสิกส์ ( อีกแล้ว ) ไม่ชอบเลย
ทำไม่เป็น ต่อไป ก็เคมีสินะ
ง่วงดี เยี่ยมเลยยยย
พอเสร็จแล้วก็ต้องกลับบ้าน
รถเกือบทิ้งแหน่ะ
มัวแต่คุยกับเพื่อนอยู่เกือบมาไม่ทัน 55555
พอขึ้นรถ กะจะอ่านชีวะเพราะว่าจะต้อง
สอบวันพุธ
อ่านไป2 บรรทัดก็หลับแล้ว
ตื่นมาก็ถึงบ้าน พอดี 5555
พรุ่งนี้ก็จะสอบแล้ว
ไปอ่านหนังสือก่อนนะ
ฝันดีทุกคน
><


16/9/12

                                                                                                                                 16 sep 2012

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ฝนตกหนักมากมาก จะไปเรียนพิเศษ
ก็คิดอยู่ว่าจะไปดีไหม ???
สุดท้ายก็ต้องไป เพราะจะปิดคอร์สแล้ว
ไปเรียนครึ่งวันแล้วก็กลับบ้าน เพราะขี้เกียจเรียน
ต่อมากมาก น่าเบื่อที่สุด T^T  55555
เรียนเสร็จก็แอบไปเดินเที่ยวก่อน แล้วค่อยกลับบ้านกับ
ป๊า เหนื่อยมาก เลย กลับบ้านแล้วก็ต้องกลับมา
ทำธุระที่สำคัญต่อ 555555
วันนั้นใกล้ถึงแล้วสินะ อิอิ
เราไปอาบน้ำ นอน แล้ว
นะ ฝันดีทุกคนเลยย

15/9/12

                                                                                                                             15 sep 2012

วันนี้เป็นวันเสาร์แต่ก็ต้องไปเรียนพิเศษเคมีอีก -..-
เบื่ออยู่เหมือนกัน ตอนบ่ายก็ต้องไปเรียนคณิตต่อ
ก็วันอังคารมีสอบนี่นา ก็เลยต้องไป 55555
พอเรียนเคมีเสร็จก็ไปกินข้าวกับเพื่อนๆ ที่โมโม่
อร่อยดี แต่แพงไปหน่อยยย =..=
5555 เรียนเสร็จก็กลับบ้าน
กินข้าว ทำงานที่ค้างคา
เพราะมันค้างเยอะเหลือเกิน ):
เราไปล้ะน้าาาา
ไปกินข้าวก่อน
บ๊าย บายยยยยยยยยยยยยย
^____________________________^

14/9/12

14 sep 2012

วันนี้เป็นวันศุกร์ แล้วแอบดีใจหน่อยๆ 55555 ที่จะได้หยุดพรุ่งนี้แล้ว จะได้อยู่บ้าน ดูการ์ตูน
พักผ่อน เคลียร์งาน แต่มันยังไม่ถึงเลย คิดไปไกลเชียว =______=''
เราตื่น 6 โมง  แล้วก็อาบน้ำ กินข้าว เสร็จแล้วก็นั่งรถตู้ไปโรงเรียน
วันนี้มีสอบด้วย ยังทำไม่เป็นเลยสักนิด T____T
เห้อออออ ! พอถึงโรงเรียนก็ เรียน เรียน เรียน แล้วก็เรียน
พอตอนที่ถึงวิชาที่จะสอบ ก็ทำไม่เป็น นั่ง งง 55555
ปลง มากกก !  พอสอบเสร็จก็กลับบ้าน
อาบน้ำ เล่นเกมส์นิดหน่อย ทำงานส่วนตัวอีก ^^''
เพราะใกล้ถึงวันสำคัญล้าาาาาาาา 555555 ><
ไปนอนล้ะ น้ะ ฝันดีทุกคน

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

หมากฝรั่ง ก็มีประโยชน์ +)


หมากฝรั่ง ก็มีประโยชน์


ใครที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง รู้หรือไม่ว่า หมากฝรั่ง มีประโยชน์อะไรบ้าง ? วันนี้มีคำตอบค่ะ....
หมากฝรั่ง ช่วยลดอาการเสียดท้อง ถ้าเคี้ยวหมากฝรั่งหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จะช่วยลดกรดไหลย้อนกลับได้ หมากฝรั่งช่วยให้สุขภาพฟันดูสดใส แต่จะต้องเป็นแบบซูการ์ฟรีเท่านั้น !
การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ จะช่วยลดอาการฟันผุได้ เพราะหมากฝรั่งช่วยลดกรดในช่องปาก และความเหนียวของหมากฝรั่ง จะช่วยทำให้ฟันสะอาดดีด้วย เพราะหมากฝรั่งจะช่วยเข้าไปทำให้อาหารหลุดออกมาได้.
เคี้ยวหมากฝรั่งแล้ว ก่อนเข้านอนก็อย่าลืมแปรงฟัน ไม่อย่างนั้นอาจจะฝันผุได้นะ

นมวัว กับ นมถั่วเหลือง (:


นมวัว กับ นมถั่วเหลือง


ที่เค้าว่านมถั่วเหลืองดีอย่างโน้นอย่างนี้ แถมราคาก็ถูกกว่านมวัว แล้วอย่างนี้เราจะหันมาดื่มนมถั่วเหลืองแทนนมวัวซะเลยจะดีไหม" คำถามนี้เคยเกิดขึ้นในใจ คุณบ้างรึเปล่า? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยที่ว่านี้กันให้ชัดๆ เลย
ในเรื่องของโปรตีน ถ้าทำน้ำถั่วเหลืองจากสูตร ถั่วเหลือง 1 ส่วนต่อน้ำ 8 ส่วน จะได้โปรตีนใกล้เคียงกับนมวัว คือ ดื่มนมถั่วเหลือง 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) จะ ได้โปรตีน ประมาณ 6 กรัม (นมวัว 1 แก้ว จะได้โปรตีนประมาณ 7 กรัม) แต่ คุณภาพ โปรตีนในนมวัวมีความสมบูรณ์ ของกรดอะมิโนที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีนดีกว่า โปรตีนจากถั่วเหลือง ที่มาจากพืช แต่คุณภาพของโปตีนในนมถั่วเหลือง ก็สามารถ เสริมให้ดีขึ้นได้ ด้วยการ เติมเครื่องต่างๆ อย่างที่นิยมกัน เช่น ลูกเดือย สาคู ถั่วแดง ลงไป ได้ทั้งความอร่อยแถมคุณค่าของโปรตีนสมบูรณ์ขึ้น

พลังงานที่ได้จากนมวัวจะมีไขมันมากกว่านมถั่วเหลืองถึง 2 เท่า คือนม วัว 1 แก้วจะให้พลังงาน ประมาณ 170 แคลอรี่ ส่วนนมถั่วเหลืองจะให้เพียง 80 แคลอรี่ เท่านั้น แต่คนที่ดื่มนมถั่วเหลืองเติมน้ำตาลมาก จนมีรสหวานกว่านมสดรสหวาน ก็จะ ได้พลังงานทั้งหมดพอๆ กัน แม้ว่านมถั่วเหลืองจะให้แคลเซียม ที่น้อยกว่านมวัว แต่ให้ธาตุเหล็กและวิตามินบีหนึ่งที่มากกว่า

เราดื่มนมถั่วเหลืองทดแทนนมวัวไม่ได้ เพราะจะมีแคลเซียมน้อยกว่านมวัวอยู่มาก แต่หากมีการเสริมแคลเซียมลงในนมถั่วเหลือง ก็เท่ากับว่าเสริมคุณค่าทางโภชนาการ ให้สมบูรณ์มากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มนมถั่วเหลืองเป็นอาหารเสริมก็ควรดื่ม วันละ 1-2 แก้ว หากเป็นนมถั่วเหลืองธรรมดาที่ไม่ได้มีการเสริมแคลเซียม ขอแนะนำ ให้ดื่มนมวัวบ้างประมาณวันละ 1-2 แก้ว สำหรับผู้ใหญ่ หรือ 2-3 แก้วสำหรับเด็ก เช่นเดียวกับหญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อจะได้แคลเซียมอย่างเพียงพอกับความ ต้องการของร่างกายในสภาวะนั้นๆ

ข้าวกล้อง วิตามิน...เพียบบ


ข้าวกล้อง วิตามิน...เพียบ


ข้าวกล้องคืออะไร 
                   คือข้าวที่สีเอาเปลือก (แกลบ) ออกโดยที่ยังมีจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (รำ) อยู่ ข้าวกล้องจะมีสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวนี้มีคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์มาก สำหรับข้าวขาวที่เรากินๆ กันอยู่นั้น เป็นข้าวที่เกิดจากการขัดสีหลายๆ ครั้ง จนเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าวหลุดออกไป จนเหลือแต่เนื้อในของข้าว  ข้าวกล้องบางคนเรียกกันติดปากว่า ข้าวซ้อมมือหรือข้าวแดง เนื่องจากในสมัยโบราณ ชาวบ้านใช้วิธีตำข้าวกินกันเอง จึงเรียกว่า ข้าวซ้อมมือ แต่ปัจจุบันเราใช้เครื่องจักรสีข้าวแทน จึงเรียกข้าวที่สีเอาเปลือกออกนี้ว่า ข้าวกล้อง  ข้าวกล้องมีโปรตีนประมาณ 7-12% (แล้วแต่พันธุ์ข้าว) นักค้นคว้าชื่อ โรสเดล ( Rosedale ) ได้วิเคราะห์ว่า การขัดสีข้าวกล้องจนมีสีขาว จะทำให้โปรตีนสูญหายไปประมาณ 30%

 
  
 ประโยชน์มากมายของการกินข้าวกล้อง  
                  • ได้วิตามินบีรวมช่วยป้องกันและบรรเทาอาหารอ่อนเพลีย แขน ขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนังบางชนิด บำรุงสมองทำให้เจริญอาหาร 
                  • ได้วิตามินบี 1 ซึ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้ 
                  • ได้วิตามินบี 2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก 
                  • ได้ฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน 
                  • ได้แคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว 
                  • ได้ทองแดง สร้างเมล็ดโลหิต และเฮโมโกลบิน 
                  • ได้ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง 
                  • ได้โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ 
                  • ได้ไขมัน ให้พลังงานแก่ร่างกาย ไขมันในข้าวกล้องเป็นไขมันที่ดี ไม่มีโคเรสเตอรอล 
                  • ได้ไนอะซิน ช่วยระบบผิวหนังและเส้นประสาท และป้องกันโรคเพลลากรา (โรคที่เกิดจากการขาดไนอะซิน จะมีอาการท้องเสีย ประสาทไหว โรคผิวหนัง) 
                  • ได้คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานแก่ร่างกาย 
                  • ได้กากอาหาร ข้าวกล้องมีกากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้องไม่ผูก และช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกด้วย 
                  • วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ในข้าวกล้องจะช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ  


ข้าวกล้องมีอะไรดีกว่าข้าวขาว 

ธาตุเหล็ก มีมากเป็น 2 เท่าช่วยป้องกันโลหิตจาง
 
  

                 • ข้าวกล้องมีวิตามินบี 1 มากกว่าข้าวขาวประมาณ 4 เท่า ถ้ากินเป็นประจำ จะป้องกันโรคเหน็บชา 
                 • วิตามินบี 2 มีมากจะป้องกันโรคปากนกกระจอก 
                 • วิตามินบีรวม มีมากกว่าจะป้องกัน และบรรเทาอาการอ่อนเพลียและขาไม่มีแรง อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ ลิ้นแตกหรือมีแผล ริมฝีปากเจ็บหรือมีแผล โรคผิวหนังบางชนิด โรคปลายประสาทอักเสบ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทบางชนิด 
                 • วิตามินบีรวม ยังบำรุงสมอง ทำให้เรียนเก่งขึ้นและเจริญอาหาร 
                 • ธาตุเหล็ก มีมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโลหิตจาง 
                 • แคลเซียม มีมากกว่า จะทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว 
                 • ไขมัน มีมากกว่าให้พลังงานแก่ร่างกาย 
                 • กากอาหาร มีมากกว่าจะช่วยป้องกันท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ 
                 • เกลือแร่และวิตามินต่างๆ ในข้าวกล้อง มีรวมกัน 20 กว่าชนิด มีหน้าที่ทำให้การทำงานของส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ 
                 • โปรตีน มีมากกว่าช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ 
                 • แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) มีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมจะสมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น 
                 • ประหยัดเงินทอง เพราะเจ็บป่วยน้อยกว่า ข้าวกล้องจะมีราคาถูกกว่า เพราะต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า 
                 • มีผลทำให้สุขภาพจิตและสติปัญญาดีขึ้น เพราะสุขภาพกายดีขึ้น 


ผลเสียของการกินข้าวขาว 


โรคและอาการต่างๆ ต่อไปนี้ จะลดลงมากหรือป้องกันได้ ถ้ากิน ข้าวกล้อง เป็นประจำ และกินอาหารเพียงพอและถูกหลัก 


                • โรคเหน็บชา เพราะขาดวิตามิน-บี 1 ข้าวกล้องมีวิตามิน-บี 1 มากกว่าข้าวขาว 385% (พบมากในประเทศที่กินข้าวขาวเป็นอาหารหลัก) 
                • โรคปากนกกระจอก เพราะขาดวิตามิน-บี 2 ข้าวกล้องมีวิตามิน-บี 2 มากกว่าข้าวขาว 66% (ตามชนบทมีเด็กเป็นโรคปากนกกระจอก 60%) 
                • โรคโลหิตจาง เพราะขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากข้าวกล้องมีธาตุเหล็กมากกว่าข้าวขาว 2 เท่า (ประชากรไทยเป็นโรคโลหิตจาง 40%) 
                • โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (พบมากทางภาคเหนือและภาคอีสาน โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี) เกี่ยวเนื่องจากมาจากการขาดธาตุฟอสฟอรัส และอื่นๆ ซึ่งมีในข้าวกล้อง นอกจากนั้นฟอสฟอรัสยังช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟันอีกด้วย 
                • โรคท้องผูก เพราะมีกากอาหารน้อย ข้าวกล้องมีกากอาหารมากกว่า 133% (ข้าวกล้องช่วยป้องกันท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่) 
                • โรคทางระบบประสาทบางชนิด และโรคปลายประสาทอักเสบ เพราะขาดวิตามินบีรวม ซึ่งมีมากในข้าวกล้อง (วิตามินบีรวม ช่วยบำรุงสมอง ทำให้เรียนเก่งขึ้น และเจริญอาหาร) 
                • อารมณ์เสียง่ายกว่า หงุดหงิดเพราะชาดวิตามินบีรวม ซึ่งเป็นวิตามินที่เสริมสร้างระบบประสาทของร่างกาย และถ้าระบบประสาทของเราไม่ดี ทำให้เราควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีนัก 
                • เบื่ออาหาร เพราะขาดวิตามินบีรวม ซึ่งข้าวกล้องมีมากกว่าข้าวขาว 
                • โรคขาดโปรตีน ข้าวกล้องมีโปรตีน ร้อยละ 7-12 (เด็กไทยประมาณร้อยละ 40-60 เป็นโรคขาดโปรตีนและพลังงาน) ข้าวกล้องมีโปรตีนมากกว่าข้าวขาว 20-30% 
                • โรคผิวหนังบางชนิด ขาดวิตามินบีบางตัว 
                • อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ ปวดเมื่อยตามตัวและขา เพราะขาดวิตามินบีรวม 
                • โรคชัก เนื่องจากขาดวิตามิน บี 6 ซึ่งมีมากในข้าวกล้อง 
                • ข้าวขาวมีแป้ง (คาร์โบไฮเดรต) พอๆ กับข้าวกล้อง แต่มีเกลือแร่และวิตามินต่างๆ น้อยกว่าข้าวกล้อง (ในข้าวกล้องจะมีวิตามินรวมกัน 20 กว่าชนิด) ที่ทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์ 

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555